DOLOMITES AND WHITE SNOW อิตาลี ออสเตรีย 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ (CI)

วาติกัน - มหาวิหารเซนท์ปีเตอร์ - น้ำพุเทรวี - บันไดสเปน - ปิซ่า - หอเอนปิซา - ลา สเปเซีย – นั่งรถไฟเข้าสู่ ชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า - หมู่บ้านเวอร์นาซซา - ปาร์มา - เมสเตร้ - เกาะเวนิส - เวโรนา อารีนา - หมู่บ้านซานตาแมดดาเลนา - เทรนโต - กระเช้าสุ่ยอดแอลป์ดิซุสเซ่ - อินส์บรูค - หลังคาทองคำ - ซาลส์บวร์ก   - ฮัลสตัท  เวียนนา - OUTLET  
เวียนนา - บราติสลาวา - ถนนคาร์ทเนอร์ - พระราชวังเชินบรุนน์
  • ทัวร์ : Austria [ออสเตรีย] Italy [อิตาลี] Europe [ยุโรป]
  • เที่ยวเมือง : Parma (ปาร์มา) Pisa (ปิซา) Verona (เวโรนา) Salzburg (ซาลซ์บูร์ก) Venice (เวนิส) Rome (โรม) Vienna (เวียนนา) La Spezia (ลาสเปเซีย)
  • Product : Go365Travel
  • รหัสโปรแกรม : T13680
  • Code : QQGO3FCO-CI001
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้นที่
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
วาติกัน - มหาวิหารเซนท์ปีเตอร์ - น้ำพุเทรวี - บันไดสเปน - ปิซ่า - หอเอนปิซา - ลา สเปเซีย – นั่งรถไฟเข้าสู่ ชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า - หมู่บ้านเวอร์นาซซา - ปาร์มา - เมสเตร้ - เกาะเวนิส - เวโรนา อารีนา - หมู่บ้านซานตาแมดดาเลนา - เทรนโต - กระเช้าสุ่ยอดแอลป์ดิซุสเซ่ - อินส์บรูค - หลังคาทองคำ - ซาลส์บวร์ก - ฮัลสตัท เวียนนา - OUTLET เวียนนา - บราติสลาวา - ถนนคาร์ทเนอร์ - พระราชวังเชินบรุนน์
ระยะเวลาเดินทาง
ราคา
สถานะ

28 ธ.ค. - 06 ม.ค. 69 (อา-อ)

93,900
จอง

11 - 20 ม.ค. 69 (อา-อ)

85,900
จอง
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพฯ – สนามบินไทเป

14.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
17.50 น. ออกเดินทางสู่สนามบินไทเป โดยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ (CI) เที่ยวบินที่ CI836
22.25 น. เดินทางถึงสนามบินไทเป รอเปลี่ยนเครื่อง
23.25 น. ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน CI075
วันที่ 2

ไทเป - สนามบินโรม - วาติกัน - มหาวิหารเซนท์ปีเตอร์ - น้ำพุเทรวี - บันไดสเปน - ปิซ่า

07.15 น. ถึงสนามบินฟูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่นครรัฐวาติกัน Vatican ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด ชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ St. Peter’s Basilica นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของสถานสร้างความบันเทิงของชาวโรมันมาแต่สมัยโบราณโคลอสเซี่ยม Colosseum 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน จากนั้นผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม Roman Forum อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำท่านเดินชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง สามรักในกรุงโรม นำท่านเดินสู่บริเวณย่านบันไดสเปน (The Spainsh Step) แหล่งแฟชั่นชั้นนำและแหล่งนัดพบของคนรักการช้อปปิ้ง ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ปิซ่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (พิซซ่าและพาสต้าอิตาเลียน)
ที่พัก GALILEI หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

ปิซา - หอเอนปิซา - ลา สเปเซีย – นั่งรถไฟเข้าสู่ ชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า - หมู่บ้านเวอร์นาซซา - ปาร์มา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า Pisa เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี Compo Dei Miracoli ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ Baptistry of St. John ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม Duomo ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า Leaning Tower of Pisa สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร นําท่านโดยสารรถไฟสู่ หมู่บ้านชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาติเยี่ยมอีกด้วย
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านแวร์นาซซา (Vernazza) หมู่บ้านริมผางามที่โรแมนติกที่สุดในกลุ่ม 5 หมู่บ้านของ ชิงเคว เทเร)อิตาลี หมู่บ้านนี้เป็นที่หมู่บ้านที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุด บ้านเรือนมีสีสันสดใส ติดทั้งทะเลและภูเขา กิจกรรมเพียบ ไม่ว่าจะนั่งชมวิวชิลล์ ๆ เดินเล่นริมหาด ล่องเรือชมธรรมชาติ ที่ขาดไม่ได้คือ ร้านค้า ร้านอาหารอิตาเลี่ยนอร่อยๆ บาร์เก๋ๆ คือเพียบมาก จากนั้นเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่ เมืองปาร์มา (Parma) เมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา โดยเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดแฮมและพาร์เมซานชีส มีแฮมที่มีชื่อเสียงอย่างปาร์มาแฮม (Parma Ham) ซึ่งโดดเด่นด้วยลักษณะพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม รสชาติเค็มและออกหวานนิดๆ ทำมาจากขาหมู ที่นำไปบ่มไว้ในถ้ำ ซึ่งมีอากาศเย็น นานถึง 6 เดือน หรือนานแรมปี อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งของขึ้นชื่อของเมือง เช่น ชีสพาเมซาน หรือ Parmigiano Reggiano ที่ชาวอิตาเลี่ยนนิยมทานเป็นชีสยอดนิยม รวมทั้งแฮมหลากหลายชนิด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์มาแฮม)
ที่พัก SPA VITA หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ปาร์มา - เมสเตร้ - เกาะเวนิส - เมสเตร้

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส Venice Mestre ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก เป็นเมืองท่าโบราณและเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทาง สู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ Tronchetto นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย Venezia ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ Bridge of Sighs ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ Doge’s Palace อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค St. Mark’s Square ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค St. Mark’s Bacilica ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ Venice Mestre
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (สปาเก๊ตตี้หมึกดำ)
ที่พัก MOVE VENICE NORD หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

เมสเตร้ - เวโรนา - เวโรนา อารีนา - หมู่บ้านซานตาแมดดาเลนา - เทรนโต

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต้รองจากเวนิส เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวี และนักเขียนบทละครชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก เขายังใช้บรรยากาศ และเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่าแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงามภายในจัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่ “หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา” (Santa Maddalena) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเบลูโน โดยคำว่า Santa Maddalena หรือ St. Magdalena ในภาษาเยอรมัน คือหมู่บ้านวิวสวรรค์กลางพื้นที่หุบเขาในชุมชน Val di Funes หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาที่ตั้งอยู่ใต้เงาของเทือกเขาโดโลไมท์ ถือว่าเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแต่มีทัศนียภาพที่งดงามแบบอลังการพร้อมสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเทรนโต้ (Trento)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก H+ หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

เทรนโต - กระเช้าสุ่ยอดแอลป์ดิซุสเซ่ - อินส์บรูค - หลังคาทองคำ - ซาลส์บวร์ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) ศูนย์กลางของแถบอุทยานเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเพลิดเพลิน กับอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้า (Cable Car) เราจะพาขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า แอลป์ ดิ ซุสเซ่ (Alpe di Siusi) นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป” ให้ท่านได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์มุมสูงของเทือกเขาโดโลไมท์ เวลาที่มองลงไปด้านล่างจะยังเห็นบ้านเรือนในสไตล์ยูโรเปี้ยนรีสอร์ทกระจายอยู่ตามไหล่เขา อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน*** ออกเดินทางต่อสู่ เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้น ทีโรลเป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรียตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ ชมหลังคาทองคำ(Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งถนนเกไทรเดร้ (Getreidegasse) ถนนชื่อดังย่านกลางเมืองเก่ามีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่น คือมีป้ายเหล็กสัญญษลักษณ์ต่างๆ ที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างเป็นภาพปูนปั้นแกะสลักประดับอยู่ และยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านเกิดโมสาร์ท ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี บ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในบ้านหลังนี้ยังทำให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทมีชีวิตอยู่มากที่สุด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก FOURSIDE หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

ซาลส์บวร์ก - ฮัลสตัท เวียนนา - OUTLET

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขา และป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในซัลทซ์คัมเมอร์กูท (Salzkammergut) เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามของเมือง และเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาจากทะเลสาบฮัลสตัท)

นำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระชอปปิงสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก RAINERS21 หรือเทียบเท่า
วันที่ 8

เวียนนา - บราติสลาวา - เวียนนา - ถนนคาร์ทเนอร์ - พระราชวังเชินบรุนน์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำเดินทางสู่ กรุงบราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

เดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955 นำท่านถ่ายรูปกับ พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นเชิญชอปปิงสินค้าในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Kartnerstrasse) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญชอปปิงสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton , Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรูปภายนอกกับ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส เดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955 นำท่านถ่ายรูปกับ พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นเชิญชอปปิงสินค้าในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Kartnerstrasse) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญชอปปิงสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton , Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรูปภายนอกกับ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก RAINERS 21 หรือเทียบเท่า
วันที่ 9

เวียนนา – สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
10.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที CI074
วันที่ 10

ไทเป - กรุงเทพฯ

05.30 น. เดินทางถึงสนามบินไทเป รอเปลี่ยนเครื่อง
07.00 น. ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน CI064
09.50 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
รายละเอียดและเงื่อนไข

1.      ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.      ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.      เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.      หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.      การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.      หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.         ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์           อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.         ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.         ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.         ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.         ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.         ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)

8.  ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.         ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.         ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 23 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.         ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.         ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.         ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.         ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (17 ยูโร /ต่อท่าน)

7.         ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (30 ยูโร /ต่อท่าน)

GO3FCO7NVIECI251228 เดินทางวันที่ 28 ธันวาคม 2568 - 06 มกราคม 2569
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - TPE 2025-12-28 - 2025-12-28 17:50 - 22:25 avatar-img CI836
TPE - SFO 2025-12-28 - 2025-12-28 23:25 - 07:15 avatar-img CI075
VIE - TPE 2026-01-05 - 2026-01-06 10:40 - 05:30 avatar-img CI064
TPE - BKK 2026-01-06 - 2026-01-06 07:00 - 09:50 avatar-img CI833
GO3FCO7NVIECI260111 เดินทางวันที่ 11 มกราคม 2569 - 20 มกราคม 2569
เส้นทาง วันที่ เวลา สายการบิน ไฟท์บิน
BKK - TPE 2026-01-11 - 2026-01-11 17:50 - 22:25 avatar-img CI836
TPE - SFO 2026-01-11 - 2026-01-11 23:25 - 07:15 avatar-img CI075
VIE - TPE 2026-01-19 - 2026-01-20 10:40 - 05:30 avatar-img CI064
TPE - BKK 2026-01-20 - 2026-01-20 07:00 - 09:50 avatar-img CI833