สินค้าถูกจองเต็มหมดแล้ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-277-9999

CINQUE TERRE AND DOLOMITES อิตาลี 8 วัน 5 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)

CINQUE TERRE AND DOLOMITES  อิตาลี 8 วัน 5 คืน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)
  • ทัวร์ : Italy [อิตาลี] Europe [ยุโรป]
  • เที่ยวเมือง : Bolzano (โบลซาโน) Milan (มิลาน) Pisa (ปิซา) Venice (เวนิส) Rome (โรม)
  • รหัสโปรแกรม : T6949
  • Code : QQGO3FCO-EK005
  • ประเภททัวร์ : ทัวร์ต่างประเทศ
  • ระยะเวลา : 8 วัน 5 คืน
ติดต่อเรา
ไฮไลท์ทัวร์ Highlight
โรม | วาติกัน | โคลอสเซี่ยม | หมู่บ้านซิวิตา ดิ แบนอริจิโอ | ปิซ่า | ฟลอเรนซ์ | ชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า - หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร | ลา สเปเซีย | โบลซาโน | ออร์ทิเซ่ | แอลป์ ดิ ซุสเซ่ | ทะเลสาบเบรียส | ทะเลสาบมิสุริน่า | เวโรน่า | ซีร์มิโอเน่ | มิลาน
ระยะเวลาเดินทาง
ราคา
สถานะ
รายละเอียดโปรแกรม
วันที่ 1

กรุงเทพ

23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2

ดูไบ – โรม – วาติกัน – โคลอสเซี่ยม

02.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงดุไบด้วยเที่ยวบิน EK377
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.10 น. ออกเดินทางสู่กรุงโรมด้วยเที่ยวบิน EK097
13.25 น. ถึงสนามบินฟูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และ วันที่ 29 ตุลาคม ปรับเวลาท้องถื่นเป็นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นำท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด

ชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) นำท่านผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของสถานสร้างความบันเทิงของชาวโรมันมาแต่สมัยโบราณโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน จากนั้นนำท่านเดินชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง สามรักในกรุงโรม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก IH HOTEL ROMA Z3 หรือเทียบเท่า
วันที่ 3

โรม – หมู่บ้าน ซิวิตา ดิ แบนอริจิโอ – ปิซ่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน ซิวิตา ดิ แบนอริจิโอ ( Civita di Bagnoregio) หรือหมู่บ้านซิวิตา เป็นหมู่บ้านเล็กๆ บนเนินเขาในแคว้นลาซิโอ ใกล้ๆกรุงโรม มีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ 2,500 ปี ภายในมีบ้านเรือนที่ทำจากหินอายุหลายร้อยปี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีสะพานเดียวเชื่อมระหว่างเมืองแบนออริจิโอกับหมู่บ้านซิวิตา โดยในอดีตทั้งหมู่บ้านซิวิตาและเมืองแบนอริจิโอนั้นเชื่อมต่อเป็นเมืองเดียวกัน แต่เนื่องจากการกัดเซาะของลมฝนและแผ่นดินไหวทำให้ภูมิประเทศของหมู่บ้านซิวิตาเปลี่ยนไป จนในที่สุดก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ผู้คนที่อาศัยอยู่ก็ทยอยย้ายออกไปจนเหลือคนอาศัยอยู่เพียงแค่ประมาณ 100 คนเท่านั้น และได้รับการขนานนามว่า “The dying City” หรือเมืองที่กำลังจะตาย แต่ด้วยทำเลที่แปลก รวมกับลักษณะพิเศษของตัวหมู่บ้านที่มีลักษณะเหมือนป้อมปราการและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่โดยรอบ ทำให้คนอิตาลีหันมาอนุรักษ์หมู่บ้านนี้ โดยการสร้างสะพานเชื่อมจากหมู่บ้านซิวิต้าไปเมืองแบนออริจิโอขึ้นมาทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาจากทั่วทุกมุมโลกและได้รับการยอมรับว่าคือ เพชรเม็ดงามแห่งแคว้นลาซิโอ และได้รับการขนานนามใหม่เป็น “The city that must live” หรือ เมืองที่จะต้องมีชีวิตต่อไป
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก EURO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 4

ปิซ่า – ชิงเกว แตร์เร - หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ - หมู่บ้านมานาโรล่า - หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร - ลา สเปเซีย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นําท่านโดยสารรถไฟสู่ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร ( Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และกว้างมากที่สุด มีหาดทรายยาวสวยงามที่สุดในชิงเกว แตร์เร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (พิซซ่าอิตาเลียน)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก CDH HOTEL LA SPEZIA หรือเทียบเท่า
วันที่ 5

ลา สเปเซีย – ฟลอเรนซ์ – โบลซาโน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางต่อสู่แคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ ฟลอเรนซ์ (Florence) ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก นักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมความยิ่งใหญ่ และอลังการของมหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม นำชมจัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain of Neptune),วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus with the Head of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่ จากนั้นนำท่าน มาริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน จะพบกับสะพานเวคคิโอ (Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีมีร้านขายทอง และอัญมณีอยู่ทั้งสองข้าง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางเข้าสู่โบลซาโน (Bolzano)เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์และเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่าทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขาโดโลไมท์ในทางทิศตะวันออก
ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก STADT HOTEL CITTA หรือเทียบเท่า
วันที่ 6

โบลซาโน – ออร์ทิเซ่ - แอลป์ ดิ ซุสเซ่ – ทะเลสาบเบรียส - ทะเลสาบมิสุริน่า - เวโรน่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) ศูนย์กลางของแถบอุทยานโดโลไมท์ โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเพลิดเพลิน กับอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้า (Cable Car) เราจะพาขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า แอลป์ ดิ ซุสเซ่ ( Alp di Siusi ) นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป” ให้ท่านได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์มุมสูงของเทือกเขาโดโลไมท์ เวลาที่มองลงไปด้านล่างจะยังเห็นบ้านเรือนในสไตล์ยูโรเปี้ยนรีสอร์ทกระจายอยู่ตามไหล่เขา อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน***
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็มอิ่ม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเวนิสของแคว้นเวเนโต้ และเมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี คศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHG HHOTEL CATULLO VERONA หรือเทียบเท่า
วันที่ 7

เวโรน่า - ซีร์มิโอเน่ - มิลาน - สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงาม จัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรม เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับบ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียตแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินทางสู่เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เมืองแห่งป้อมปราการโบราณ เก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda)
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง (The Scallger of Sirmione ) สร้างในปี 1277 ซึ่งเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นเดินเล่นชมเมืองเก่าชิมไอศรีมเจลาโต้ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี หลากหลายร้านและของที่ระลึกอื่นๆ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบการ์ด้า ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ จากนั้นเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
21.35 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK92
วันที่ 8

ดูไบ – สนามบิน

06.35 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. ออกเดินทางต่อกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK372
18.20 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
มื้ออาหาร
วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7
8
รายละเอียดและเงื่อนไข

1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า
ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **  
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8.  ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
  1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอิตาลี รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)
  6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (13 ยูโร/ต่อท่าน)
  7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (24 ยูโร/ต่อท่าน)